วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

8 วิธี รัก อย่างไร ไม่ให้ตัวเองเป็นของตาย


เราต่างก็รู้ว่าคนรักกันความซื่อสัตย์ต้องมาอันดับ 1 เสมอ แต่ถ้ารักกันมานานแล้วชีวิตเรียบง่ายเกินไปมันก็ใช่ว่าจะดี เมื่อระยะเวลาของความรักยังคงแปรผันตรงกับความเมื่อหน่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเราจะมามัวทำตัวเรียบๆ ตลอดเวลาได้อย่างไร ถ้าไม่อยากถูกเรียกว่าเป็น ของตาย ของใคร ก็ต้องลองสะกิดหัวใจเขาด้วยวิธีค้นๆ แบบนี้ล่ะ


 
หัดไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง
หลายคนพอมีคู่รักแล้วมักจะตัดขาดกับเพื่อนฝูงราวกับชีวิตนี้ไม่ต้องมีใครแล้วก็ได้ เพื่อนชวนไปเที่ยว ช๊อปปิ้ง ดูหนังก็เบี้ยวเพื่ออยู่ร่ำไประวังเถอะสุดท้ายจะไม่เหลือใครถ้ามัวแต่คอยเกาะแฟนแจขนาดนี้การมีเพื่อนทำให้ชีวิตคุณสดใสไม่หยุดนิ่งกับที่ ยิ่งไปไหนกับเพื่อนๆ โดยไม่มีแฟนก็ยิ่งเป็นการบริหารเสน่ห์ให้ตัวคุณได้มากโขและจะทำให้เขากังวลถึงคุณมากขึ้นอีกด้วย ดีมั้ยล่ะ!

คุยกับหนุ่มคนอื่นบ้าง
ทีเขายังมีเพื่อนผู้หญิงได้เลย จะมัวไปคอยตามหึงตามหวงเขากับเพื่อนสาวทำไมกัน คุณเองก็มีเพื่อนต่างเพศได้เหมือนกันนะ ลองเปิดใจมีเพื่อนผู้ชายไว้บ้างก็ได้ แค่อย่าคิดอะไรเกินเลยเท่านั้นละ (อย่าลืมว่าเราแค่กำลังทำให้ตัวเองไม่เป็นของตาย) ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่ทำงานด้วยกัน หรือเพื่อนผู้ชายที่ไปเปรี้ยวกันได้เป็นกลุ่มๆ ก็ทำให้เขาร้อนๆ หนาวๆ ได้ตลอดเวลาจนต้องโทรหาคุณตลอดแล้วล่ะ

ชมผู้ชายคนอื่นอย่างออกหน้า

ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นดารา เป็นนักการเมือง เป็นผู้ชายเก่งๆ หรือเพื่อนของคุณ คุณก็สามารถเอ่ยคำชมถึงคนเหล่านั้นให้คู่ของคุณฟังได้ (เช่น หนุ่มๆ ใน HAIRWORLD เล่มนี้) ไม่ใช่เอะอะก็ชมแต่เขาคนเดียวจนตัวลอย และยังเป็นเคล็ดลับทางอ้อมให้เขารีบพัฒนาตัวเอง ลุกขึ้นมาแต่งตัวดีๆ และทำสิ่งดีๆ ให้กับคุณอีกด้วย แต่ข้อห้ามก็คือชมคนอื่นได้แต่อย่าได้เอาเขาไปเปรียบเทียบด้วยล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องกันพอดี

 
 เป็นสาว Shopaholic ดูซะบ้าง
ผู้หญิงบางคนไม่ชอบแต่งตัวเพราะคิดว่าไม่ต้องการใครอีกแล้ว ไม่ก็โดนแฟนเบรกเวลาจะซื้อเสื้อสวยๆ สักตัว จากสาวงามระดับดาวมหาลัยเลยกลายเป็นป้าไปในบัดดล เวลาไปเที่ยวกับเขาก็แต่งตัวเรียบๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น อยากบอกว่า อย่ายอมเด็ดขาดไม่มีเหตุผลไหนดีพอที่จะทำให้ผู้หญิงเลิกแต่งตัวสวย ไม่ว่าคุณจะมีลูกแล้วหรือย่างเข้าวัย 40 แล้วก็ตาม ขยันแต่งตัวให้ได้อย่างป้ามาดอนน่าหรือเคมี่มัวร์ดูบ้าง ออกไปช้อปปิ้งกับเพื่อนฝูงหรือไปคนเดียวก็ได้ (ไม่ต้องให้เขามาขัด) พอคุณสวยแล้วก็จะมีหนุ่มๆ มามองเยอะแยะ เขาก็ยิ่งจะหวง (ก้าง) มากขึ้นเท่านั้น รับรองว่าจะต้องกังวลสายตาคนอื่นจนไม่มีกะจิตกะใจมองสาวคนใดอีกต่อไปแล้ว

ดื่มโกโก้วันละแก้ว สุขภาพดี





          ผลการศึกษาชิ้นใหม่พบว่านอกจาก ชา หรือไวน์แดง ที่รู้กันดีว่ามีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคได้หลายโรค รวมถึงยังป้องกันผลกระทบจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยังมีอาหารอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ “โกโก้” ที่มีคุณสมบัติมากกว่าเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่ว่ามาเสียอีก

          นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาศึกษาพบว่า โกโก้ร้อน 1 ถ้วยนั้นอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเช่น ชา หรือ ไวน์แดง ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เน้นถึงคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพทีพบใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ โดยมีงานวิจัยในจีน ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วพบว่า คนที่ดื่มน้ำชาเป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกว่าครึ่งหนึ่ง



          ปีที่แล้ว นักวิจัยในฝรั่งเศสรายงานว่า ดื่มไวน์แดงวันละแก้ว อาจช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจ และในปี 1998 ได้มีการศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คนพบว่าช็อกโกแลต ซึ่งผลิตมาจากโกโก้ นั้นอาจช่วยให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วย โพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์ และก่อให้เกิดมะเร็งได้

          ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับสารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมากกว่า ไวน์แดง 1 แก้วถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วยถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

          แม้ว่าโกโก้จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหลายอย่างรวมทั้ง ช็อกโกแลต แต่นักวิจัยเผยว่าทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็คือการดื่มโกโก้ โดยตรง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในช็อกโกแลต 1 แท่งอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่ง ขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น

          “แม้เรารู้ว่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระนั้นดีต่อสุขภาพของเรามาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในแต่ละวัน เราต้องการสารนี้กันจำนวนเท่าใด” ดร. ลี กล่าว “แต่กระนั้น โกโก้ร้อน ถ้วยหรือ สองถ้วย ก็ช่วยในด้านของความอร่อย ดื่มแล้วก็ทำให้รู้สึกอุ่น และช่วยเสริมสร้างสุขภาพจากสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ได้รับอีกด้วย”

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผลไม้รักษาโรค



          มะม่วง ใช้มะม่วงสุก ปอกเปลือก ฝานเนื้อออกเป็นแผ่นๆ วางบนตะแกรงผึ่งแดด ใช้ผ้าขาวบางคลุมป้องกันแมลงวัน ผึ่งจนแห้ง นำมาใส่ชาม เทนมสดลงไปให้ท่วมเนื้อมะม่วง ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง นำมาคนให้คนป่วยดื่ม เป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี หรือใช้เนื้อมะม่วงสุกดองกับน้ำมันพืช โรยผงมัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา ทิ้งไว้ 1 คืน รับประทานกับอาหาร ใช้เป็นยาระบายได้เป็นอย่างดี หรือนำมะม่วงพันธุ์ที่มีรสเปรี้ยวจัด เก็บจากต้นใหม่ๆ เป็นมะม่วงดิบ มาต้มทั้งผลจนเหลวเละ ตักเปลือกและเม็ดออก คนให้ข้นเหมือนน้ำซุป ดื่มแก้โรคประสาท แก้เบื่ออาหาร แก้
                                                                                                                อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้น

           แตงโม น้ำแตงโมดื่มในขณะที่เป็นไข้ตัวร้อน จะช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ ส่วนเม็ดแตงโมกินแก้โรคตับ เป็นยาถ่ายพยาธิ หรือถ้ามีอาการปวดกระเพาะปัสสาวะ ให้กินเม็ดแตงโมมากๆ ช่วยบรรเทาได้ สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน กินแตงโมได้ตามสบาย เพราะแตงโมมีแคลอรีต่ำ มีธาตุโพแทสเซียม และมีแร่ธาตุอื่นๆ รวมทั้งวิตามินที่มีคุณประโยชน์ ส่วนน้ำคั้นจากแตงหอม หรือที่เรียกว่าแคนตาลูป ผสมน้ำกลิ่นกุหลาบ เจือน้ำตาลเล็กน้อย ใช้แทนยาลดไข้ได้เหมือนกัน เม็ดแตงหอมก็นำมาแช่น้ำเกลือ แล้วตากแห้ง แกะเปลือกออก กินเนื้อ แก้โรคตับ ปัสสาวะไม่ออก แก้โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ


        สับปะรด สารพัดสรรพคุณ ตั้งแต่ใช้บำรุงผิว โดยล้างหน้าให้สะอาด แล้วใช้เนื้อสับปะรดสุกสับละเอียด พอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก จะช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส หรือน้ำสับปะรด 2 ช้อนโต๊ะ ผสมไข่แดงดิบ 1 ฟอง น้ำส้มสายชู 1/4 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ใช้แช่เล็บ 30 นาที หนังบริเวณรอบๆ เล็บจะอ่อนตัว ทำให้ตัดแต่งหนังรอบเล็บได้ง่าย
          นอกจากนี้ สารเอนไซม์ในสับปะรด ช่วยขจัดกลิ่นอาหารคาวที่ติดปากให้หมดไป ควรรับประทานสับปะรดเป็นผลไม้หลังรับประทานอาหารแล้ว และสับปะรดช่วยระบบย่อยอาหาร ป้องกันท้องผูกได้ หรือใช้เนื้อสับปะรด เป็นยากำจัดหูด โดยตัดเนื้อสับปะรดแปะลงบนหูด ปิดทับด้วยพลาสเตอร์ ทิ้งไว้จนเนื้อสับปะรดเละจึงเปลี่ยนใหม่ ทำเช่นนี้บ่อยๆ หูดจะอ่อนตัวและหลุดหายไปเอง 


          สตรอว์เบอร์รี่ นำใบสตรอว์เบอร์รี่สดมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืน แล้วนำมาอมบ้วนปาก ใช้เป็นยาแก้กลิ่นปากได้อย่างดี ทำให้ลมหายใจสดชื่น เหงือกแข็งแรง แก้โรคปากเป็นแผล หรือใช้กลั้วคอ แก้อาการเจ็บคอ หรือนำใบ สตรอว์เบอร์รี่และรากที่ตากแห้งแล้ว มาใส่โถปั่น ปั่นจนเป็นผงใช้แทนยาสีฟัน ทำให้ฟันขาวเป็นเงางาม หรือนำใบและรากสตรอว์เบอร์รี่ตากจนแห้ง ชงกับน้ำเดือด ดื่มแทนน้ำชา โดยใช้ใบและรากสตรอว์เบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเดือด 1 กาขนาดกลาง สำหรับสตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่สม่ำเสมอ จะหายเป็นปกติ
          หรือใช้ไวน์ 1 ถ้วยตวง ใส่รากและใบสตรอว์เบอร์รี่ที่ตากแห้ง 1/2 ถ้วยตวง ต้มให้เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำ ให้คนที่เป็นโรคตับอักเสบ โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคท้องร่วง โรคทางเดินปัสสาวะ ดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ อาการป่วยจะทุเลาลง
          สำหรับสตรอว์เบอร์รี่สดมีคุณประโยชน์สำหรับผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้ คนป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ โรคเหน็บชา หรือโรคปวดตามข้อ โรคเกาต์ และโรคความดันโลหิต หรือใช้ใบสตรอว์เบอร์รี่ซ้อนกันหลายๆ ใบ นำมาประคบแก้รอยช้ำบวมบนร่างกาย

รู้ไปโม้ด : ข่าวสด

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ดูแลผิวให้สาวกว่าวัย




การจะดูแลผิวให้สาวกว่าวัยต้องดูถึงการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยหลีกเลี่ยง 7 นิสัยทำร้ายผิว ได้แก่

- เย้ยฟ้าท้าแดด ขึ้นชื่อว่ารังสีอัลตราไวโอเลต ไม่ว่าจะชนิดเอหรือชนิดบีก็มีอำนาจทะลุทะลวงกระจก ช่องหน้าต่างมาสู่ผิวได้ทุกกรณี ขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่เว้นแม้วันเมฆหมอกหนาหรืออยู่กับบ้านเฉย ๆ ถ้าไม่อยากให้ผิวเสื่อมเร็ว

- ผีเสื้อราตรี พวกนี้แก่เร็ว เพราะชอบอดนอน ฉะนั้นวันไหนต้องอดนอน อีกวันต้องรีบหาเวลางีบให้ได้ เช่น เวลานั่งรถ นั่งทำงาน หรือประชุม ให้นั่งหลับตา พักสายตานิดนึง เลือดจะได้ไหลเวียนดี เพราะถ้าเพ่งตาเรื่อย ๆ ตาจะดำคล้ำ

- กินไม่เลือก ยิ่งอายุมากยิ่งต้องพิถีพิถันเรื่องอาหารการกิน หากกินแต่แป้ง เนื้อสัตว์ น้ำตาล แล้วไม่กินผักผลไม้ ผิวจะไม่สดชื้น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว

- สะสมสารพิษ อย่างแรกเลยคือ บุหรี่ ทำให้ผิวพรรณดูหยาบกร้าน และปรอทในฟัน ซึ่งมีในผู้ที่อุดฟันด้วยอะมัลกัม สีเงินหรือสีทอง การอุดฟันชนิดนี้เวลากินอาหารที่เป็นกรด เช่น น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ชีส น้ำตาล จะทำให้ปรอทออกมากับอาหาร แล้วกลืนเข้าไป ปรอทเป็นโลหะหนักไปจับอยู่กับเม็ดเลือด เม็ดเลือดทำงานได้ไม่ดี เอาออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะไม่ได้ กลายเป็นแบกปรอทแทนที่จะแบกออกซิเจน ทำให้มีภาวะซีดเรื้อรัง ภูมิแพ้เรื้อรัง เพราะเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาวทำงานไม่ปกติ อาจมีผลให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ส่วนผิวพรรณก็ไม่สวย แห้งกร้าน และแพ้ง่าย

- ความเครียด มีผลให้ร่างกายเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ต่อสู้กับความเครียด พอเครียดขึ้นไปอีกจุด คอร์ติซอลออกมาจนหมดต่อมหมวกไต ส่งผลให้ร่างกายผอมแห้งเหี่ยว หน้าตาอมทุกข์

- ขี้เกียจออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นแอนไทเอจจิ้ง ในการชะลอความชราได้ดีที่สุด

- ใช้เครื่องสำอางผิดวิธี มี 2 ประการคือ ขัดถู ล้างหน้ามากไป ทำให้เกิดริ้วรอย ดำคล้ำ ผิวแห้งผิวหยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง และใช้เครื่องสำอางหมดอายุ



การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ๆ เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น มีข้อปฏิบัติและข้อห้ามที่เริ่มต้นง่ายๆ จากการปรับพฤติกรรมที่เราทำอยู่ทุกวัน โดย ซูซาน โบเวอร์แมน นักโภชนากร ที่ปรึกษาของเฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด มีข้อแนะนำ ดังนี้

1.รับประทานอาหารเช้า "ทุกเช้า" สังเกตง่ายๆ ว่าใครที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน จะมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นอกจากนี้ "อาหารเช้า" ยังช่วยทำให้สมองแจ่มใสและมีสมาธิในการทำงาน เพราะสมองต้องการพลังงานในตอนเช้า หลังจากที่ไม่ได้รับอาหารมาตลอดคืน

2.อย่าเพลินหม่ำขณะอยู่หน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ ก่อให้เกิดการรับประทานอาหารมากเกินไป จนทำให้เกิด 'โรคอ้วน' ได้

3.อย่ารับประทานอาหารระหว่างเดินทาง นอกจากจะไม่สร้างความสุขในการรับประทานแล้ว ยังยากต่อการประเมินปริมาณและคุณค่าอาหารที่รับประทานในช่วงนั้นๆ ด้วย 

4. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ให้ได้วันละ 8 แก้วหรือใช้วิธีวางแก้วน้ำไว้ใกล้ตัว เพื่อยกขึ้นจิบได้ตลอดวัน เพราะกลไกในร่างกายส่วนใหญ่ต้องการน้ำเป็นตัวขับเคลื่อน

5.การเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ปลอดแคลอรี และควรได้รับแคลอรีจากการรับประทานอาหารเท่านั้น

6.การกระตุ้นให้ร่างกายเคลื่อนไหวอยู่เสมอ นอกจากการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้เกิดการใช้พลังงานเพิ่มเติม เช่น การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแทนการใช้อีเมล์ หรือโทรศัพท์ภายใน

7.เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น โยเกิร์ต ถั่ว ธัญพืชที่มีโปรตีนสูง โปรตีนเชก เนยแข็งและทูน่า เป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารว่าง เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่ทำให้อิ่มได้นาน ช่วยดับความหิวได้ดีกว่าไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต จึงควร

8.รับประทาน "ผลไม้และผัก" ทุกมื้อ เพราะให้สารอาหารที่มีประโยชน์มากมายแต่ให้แคลอรีต่ำที่สุด อีกทั้งยังอุดมด้วยน้ำและไฟเบอร์ ทำให้รู้สึกอิ่มท้องโดยไม่มีไขมันส่วนเกิน

9.ไม่ควรใช้วิธีการอดมื้อ-กินมื้อ ในการควบคุมแคลอรี เพราะยิ่งทำให้เรารับประทานอาหารเพิ่มขึ้นในมื้อถัดไปแบบไม่รู้ตัว เนื่องจากร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อมาชดเชย จากการที่งดอาหารในมื้อที่ผ่านมา วิธีที่ดีควรบริโภคอาหารหรือของว่างในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งจะดีกว่า

และ 10.กีฬา คือ ยาวิเศษ เพราะการออกกำลังกาย จะช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ผ่อนคลาย เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และเสริมสร้างอัตราเผาผลาญในร่างกายได้มากขึ้น

10 วิธีวัดคะแนนผิวด้วยตัวเอง





ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตา สาวๆ อาจลืมไปว่าหนุ่มๆ ก็สนใจมองผิวพรรณของเราด้วยเหมือนกัน

ผลิตภัณฑ์ ทางด้านผิวพรรณยี่ห้อหนึ่ง เผยผลสำรวจความคิดเห็นของหนุ่มๆ ที่มีต่อแฟนสาวหรือสาวที่แอบเล็งๆ อยู่ รวมทั้งพฤติกรรมของสาวๆ ในการดูแลผิวของตัวเอง 

สำหรับหนุ่มๆ ที่เห็นว่าขรึม นิ่ง ไม่ค่อยปริปากเท่าไรนั้น ปรากฏว่า กว่าร้อยละ 72 เคยแอบสังเกตและให้คะแนนผิวรวมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผิวของแฟนสาว หรือสาวที่เล็งเอาไว้ โดยร้อยละ 96 ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าการมีผิวดูอ่อนเยาว์กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันจะทำให้ผู้หญิงดูดีขึ้น
นอกจากนี้ยังตั้งมาตรฐานผิวของสาวในอุดมคติไว้ด้วยว่า อยากเห็นผิวขาวกระจ่างใส ร้อยละ 20.8 ตามมาด้วยผิวที่ดูเปล่งปลั่งสดใส ร้อยละ 18.5 ผิวกระชับไม่มีริ้วรอย ร้อยละ 16.2 ผิวที่มีสีสม่ำเสมอ ร้อยละ 15.8 ผิวที่ไร้รอยจุดด่างดำ ร้อยละ 15.4 และผิวชุ่มชื่น ร้อยละ 14.6

อย่างไรก็ตาม แม้หนุ่มๆ จะใส่ใจกับรายละเอียดเรื่องผิว แต่ร้อยละ 74 ของ กลุ่มตัวอย่างก็ยืนยันว่าพอใจในผิวของสาวๆ ในปัจจุบัน มีเพียง ร้อยละ 7.7 เท่านั้นที่ให้คะแนนผิวของสาวๆ ในแบบเพอร์เฟ็กต์เต็ม 10 คะแนน

ส่วนผู้หญิงนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่สนใจผิวพรรณของคนอื่น ร้อยละ 67.5 ของกลุ่มตัวอย่างเคยเปรียบเทียบผิวของตัวเองกับคนรอบข้าง ซึ่งผู้หญิงร้อยละ 58 ยอมรับว่าไม่พอใจสภาพผิวของตัวเอง และร้อยละ 80 ต้องการให้ ตัวเองมีผิวดูอ่อนเยาว์กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 
ขณะที่ร้อยละ 57.5 เคยเจอแฟนหรือคนใกล้ชิดทัก หรือถามเรื่องความเปลี่ยนแปลงของผิวกาย โดยพบว่าปัจจัยด้านอายุที่เพิ่ม มากขึ้นและมลภาวะรอบๆ ตัว ส่งผลให้เกิดปัญหาผิว

เราแนะนำ 10 วิธี วัดคะแนนผิวด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เพื่อให้สาวๆ รู้คะแนนผิวของตัวเองเพื่อเสริมความมั่นใจ หมดกังวลกับปัญหาผิว คือ 

1.ใช้เล็บกรีดบนแขน ถ้ามีรอยขาวเป็นทางแสดงว่าผิวขาดความชุ่มชื้น 

2.ถ้ารู้สึกคันจนต้องเกาอยู่บ่อยๆ แสดงว่าผิวแห้งขาดการบำรุง

3.ถอดนาฬิกาข้อมือออกมาดู ถ้ามีรอยนาฬิกาบนข้อมือแสดงว่าผิว ไม่ได้รับการปกป้องจากรังสียูวีเอ และยูวีบี 

4.สังเกตผิวบริเวณแขนและลำตัว ว่าแห้งด้านไม่มีน้ำมีนวลหรือไม่ ถ้าใช่แสดงว่าผิวยังไม่เปล่งประกายสดใส 

5.ดึงเทปใสมาแปะบนหลังมือแล้วลอกออก ถ้ามีเซลล์ผิวเป็นขุยสีขาวติดมากับ เทปใส แสดงว่าการผลัดเซลล์ผิวไม่ดีพอ 

6.พลิกแขนด้านในกับด้านนอกเทียบกันดู ถ้าผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติสีจะไม่ต่างกัน 

7.ทำนิ้วเป็นวงกลมเหมือน "โอเค" ทาบไปบนผิวถ้ามีจุดด่างดำเกิน 3 จุดแสดงว่าผิวยังไม่โอเค

8.ยกแขนขึ้นมาเทียบกับหน้าแล้วส่องกระจก ถ้าสีของทั้ง 2 จุดแตกต่างกันชัดเจนมาก แสดงว่าสีผิวไม่สม่ำเสมอ 

9.ดึงเนื้อหลังมือมาบิดค้างไว้แล้วปล่อย ถ้าเนื้อคืนตัวในทันทีแปลว่าผิวยังกระชับอยู่

10.หากระจกเล็กๆ มาส่องดูลำคอ ถ้าไม่มีริ้วรอยก็คอนเฟิร์มว่าผิวเรียบเนียนใช้ได้



เช็กสภาพผิวทั้ง 10 ข้อแล้ว ผิวสวยของสาวๆ สอบผ่านกันมั้ยเอ่ย

มันมีประโยชน์





ไปอ่านเจอมาในหนังสือเล่มนึง เขาบอกว่า เหรียญยังมี 2 ด้านแล้วทำไมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเบียร์ จะมีข้อดีกับเขาบ้างไม่ได้


ข้อแีีรก ได้ผิวใส
เพราะในเบียร์อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 1000 ชนิด รวมทั้ง Pantothenic Acid และไนอาซิน ซึ่งเป็นอาหารบำรุงผิว ที่ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน แถมยังสกัดกั้นเมลานินเม็ดสี สาวนั่งดริ้งค์ก็เลยผิวขาวใส ตีนกามาช้าโดยปริยาย

ข้อสอง ป้องกันท้องร่วง
โมเลกุลในเบียร์มีลักษณะคล้ายโมเลกุลในน้ำส้มสายชู ซึ่งสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ได้ อย่างนี้นี่เอง ที่เขาเรียกว่า "ดื่มเป็นยา"

ข้อสาม ผ่อนคลายความเครียด
เป็นผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัย Montreal ของสหรัฐ ที่บอกว่าคนที่ดื่มเบียร์จะผ่อนคลายกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มถึง 15% เท่ากับว่าช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าไปในตัว

ข้อสี่ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต
เพราะเบียร์อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นมือปราบโรคนิ่วโดยเฉพาะ คนที่ดื่มเบียร์บ่อยๆจะลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ถึง 40%

ขอย้ำอีกทีว่าเหรียญยังมี 2 ด้าน การดื่มเบียร์นิดหน่อยน่ะดีแน่ แต่ถ้าดื่มมากไปก็เมากลิ้งได้ ^^


วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เคล็ดลับสวยเป๊ะ!! ย้อนวัยสไตล์ "ตั๊ก มยุรา"




จัดเป็นสาวสวยอมตะอีกคนหนึ่งในแวดวงบันเทิงสำหรับศิลปินพิธีกรสาวสะคราญ มยุรา เศวตศิลา
Beauty Secret เปิดเคล็ดลับสวยย้อนวัย สไตล์ "ตั๊ก มยุรา"

"อยู่ในวงการบันเทิงมานานมากแล้วค่ะ เข้าสู่วงการตั้งแต่อายุ 17 ปี เรื่องความสวยความงามก็ต้องดูแลมาตลอด เพราะเรายังอยู่ในวงการ จึงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพและดูแลตัวเองให้ดี และนี่ก็คือข้อดีของคนที่อยู่ในวงการที่พอเห็นหน้าตัวเองในทีวีดูไม่ดีก็ต้องรีบกลับมาดูแลตัวเอง พอกหน้า บำรุงผิวหน้า และดูแลสุขภาพร่างกาย ซึ่งอันนี้สำคัญมาก"

ตั๊ก มยุราเกริ่นนำ พร้อมกล่าวต่อว่าคนที่เป็นแฟนคลับซึ่งติดตามเราอยู่จะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะซีเรียสในเรื่องการดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นชีวิตจึงเป็นเหมือนลูกทหาร คือต้องวางแผนทุกอย่าง ตื่นนอนมาก็ต้องเป๊ะตามเวลา ณ ปัจจุบันจะตื่น 06.15 น. ทุกวัน

ทำไมต้อง 06.15 น. เพราะมีลูกอยู่ 1 คน ที่ต้องดูแล วันหนึ่งที่ได้รับผิดชอบชีวิตเขา ก็ปฏิญาณตนเองว่าถ้าเราจะเลี้ยงดุใครสักคนเราต้องเลี้ยงดูเขาให้ดี แล้วก็ต้องดูแลสามีด้วย ฉะนั้นเวลานอนก็จะต้องรีบนอนอย่างเร็วที่สุด แต่บางทีไปอัดรายการทีวี ตี 2 ยังไม่เลิก ก็จะเครียด เพราะถึงเวลานอนแล้วแต่ยังไม่ได้นอน

นอกจากภารกิจที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแล้ว เราก็จะต้องหันมาดูแลตัวเอง คือทำทุกอย่างเสร็จ ดื่มกาแฟ 1 แก้ว มีซีเรียลนิดนึงหรือข้าวต้มนิดหน่อย อาหารเช้าต้องกินเพราะสำคัญมาก หลับจากนั้นค่อยออกไปทำงาน แทบไม่มีชีวิตส่วนตัวเท่าไหร่ เพราะทำงานเกือบ 7 วันฃ

แต่ถ้าวันไหนมีเวลาสายหน่อยก็จะมาดูแลสุนัข เพราะคิดว่าเกิดเป็นมนุษย์ต้องมีวินัยต้องมีระเบียบ สิ่งที่ได้ตามมาคืออย่างน้องเรามีความสุขมันได้หลายอย่างในชีวิตมาก หน้าเราก็จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา

การตื่นเช้าในแต่ละวันก็เหมือนการออกกำลังกายไปในตัว สังเกตว่าไม่เคยอ้วนเลย และจะไม่ปล่อยให้ตัวเองอ้วน น้ำหนักเท่านี้มา 27 ปี กินอาหารจะไม่กินมันหมู หนังเป็ด หนังไก่ กะทิกินได้นิดหน่อย กินข้าวนิดเดียว ไม่สรรหาของประหลาดกิน กินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน ออกกำลังกาย 5 วัน วันละ 2 ชั่วโมง

พิธีกรศิลปินสาวกล่าวถึงเคล็ดลับความสวยว่า ต้องย้อนกลับไปที่เรื่องของวินัยและความรับผิดชอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งด้วย การมีวินัยหรือความรับผิดชอบทำให้เรามีแผนกาที่จะทำอะไร อย่างเช่นเราต้องออกกำลังกาย ถึงเวลาต้องนอน กินอาหารมีประโยชน์ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งทำมานานแล้ว ตอนวัยรุ่นก็เคยบ้างแต่เราต้องรู้ตัวเองให้ได้ว่าอย่างใหนคือความพอดี ไม่พอดี มีเครียดบ้าง แต่ต้องปรับให้เร็วที่สุด

"ความลับของความสวย เวลายิ้มเลิกหน้าขึ้นไปนิดนึง ยกคิ้วขึ้นไปนิดนึงแล้วตาจะไม่ค่อยเหี่ยว นี่คือสาเหตุที่ตัดผมหน้าม้า หน้าก็มีริ้วรอยนะถ้าเรานอนดึก สิ่งหนึ่งที่ฟังดูแล้วเหมือนละครหน่อยๆ คือจิตใจเราต้องมีความสุข แล้วมันจะมีความสุขจากข้างใน

บางคนบอกว่าถ้าเรามีครอบครัวที่ดีเราจะมีความสุข อันนี้บอกได้เลยว่าเรื่องจริง เราโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี น่ารัก สามีเป็นคนน่ารัก"




มาที่การเล่นหนังและละคร ตั๊ก มยุรา อดีตนางเอกและนักแสดงชื่อดัง เล่าว่า บทละครก็เหมือกับชึวิตจริง ถ้ามันดีเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำไมนางเอกต้องกินน้ำส้ม เพราะนางเอกกินเหล้ากินเบียร์ก็ไม่สวย จะไม่ดูเป็นนางเอก เพราะฉะนั้นนางเอกต้องประพฤติตนดี ตัวเองก็พะยายามทำให้เป็นนางเอกทั้นในและนอกจอ เพราะเหมือนการฝึกออกกำลังกาย พอเคยชินแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้ยากไปกว่าที่เราจะทำไม่ได้

สำหรับผิวหน้าที่ดูเต่งตึงสวยใน "บอกตรงๆ ว่ายังไม่ได้ดึงหน้า แต่อีกสักพักน่าจะดึง โชคดีที่จิตใจมาก่อน เรานอนหลับ และเชื่อในสัจธรรมอย่างหนึ่งคื่อธรรมะ สวดมนต์เยอะๆ ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แล้วมันก็ปรับชีวิตเราขึ้นมาได้ตามลำดับ ปกติอ่านหนังสือท่านพุทธทาส หล่วงพ่อจรัญ ทำให้ได้สติและสวยจากภายในสู่ภายนอก

"ครั้งนึงในชีวิตเคยประสบอุบัติเหตุแรงมากจนต้องรับเลือดจากคนอื่น หลังจากนั้นก็ป่วยเป็นไวรัสซี เพราะสมัยก่อนไม่ได้มีการตรวจแบบสมัยนี้ การรักษามีผลข้างเคียงเยอะ น้ำหนักลด ผมร่วง เครียด เพลีย แต่เรามีจิตใจที่จะต่อสู้ เราจะไม่ให้ใครเห็นว่าเราป่วย แล้วก็ไม่เคยท้อ เราจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ กำลังใจทำให้หายจนได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นมาได้จากใจ"


หนังสือพิมพ์ ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การเขียนอายไลเนอร์:ดวงตากลม


การเขียนอายไลเนอร์ : ดวงตากลม


เริ่มกันเลยค่ะ

V
v


ลากเส้นจากหางตาไปข้างๆ ค่ะ 


แบบนี้นะคะ


ลากเง้นต่อจากเส้นที่เขียนเมื่อกี้ เน้นให้เส้นตรงหางเรียวเข้าไว้


เติมที่ต่างเอาไว้


เติมเส้นขอบตาบนที่เหลือ เส้นตรงหางเขียนเรียวและหนากว่าตรงหัวตา


แบบนี้คะ


เก็บขอบตาบนด้วยอายไลเนอร์ดินสอ


ตาจะดูเรียวขึ้นแบบนี้ค่ะ


เขียนอายไลเนอร์ดินสอที่ขอบตาล่างทั้งหมด


ก่อนอายไลเนอร์จะแห้ง เอาแปรงอายแชโดว์หรือคัตตอนบัตไล้เบาๆ ให้เห็นเส้นสีดำดูฟุ้งๆ


เพิ่มความคมด้วยอายไลเนอร์แบบน้ำสีดำ ที่ขอบตาล่างทับเส้นดินสอ


จะได้แบบนี้ค่ะ

เปรียบเทียบระหว่าง เขียนกับยังไม่ได้เขียน จะเห็นว่าตาเรียวกว่าอีกข้าง

เขียนเสร็จแล้วทั้ง 2 ข้าง

เป็นไงกันบ้างคะ ไปลองทำกันดูคะ ง่ายๆเลยคะ